Bazoo – แดนซ์กรุ๊ปขาไขว้อันดับหนึ่งแห่งยุค
ในชีวิตหนึ่งเราเกิดมาใช้ชีวิตอยู่กับเพลง เราเติบโตขึ้นมากับแนวเพลงหลายประเ���ททั้ง ป๊อป ร็อค เทคโน แจ็ส คลาสสิก คันทรี่ แร็พ สตริง ลูกทุ่ง ฯลฯ ศิลปินมากหน้าหลายตาทยอยปล่อยผลงานออกมาในสไตล์เหล่านี้ แต่ในบางที ในบางยุค คุณจะพบเจอกับความแปลกใหม่ของศิลปินในบางกลุ่ม ที่พอได้เห็นได้ฟังในครั้งแรก คุณบอกไม่ได้ว่า “นี่มันเพลงสไตล์ไหนกันแน่” รู้แต่ว่า ฟังแล้วมันส์ติดหู เนื้อติดใจ และทำให้…อยากเต้น
ความแปลกใหม่ที่ว่านี้กำเนิดขึ้นในปลายยุค 90 เมื่อมีการทดลองผสมผสานแนวดนตรีต่างๆมาไว้ในเพลงหนึ่งเพลง ทั้งแร็พ ป๊อป แดนซ์ เทคโน ลูกทุ่ง ของทั้งแบบสากลและไทยจนบังเกิดเป็น “ศิลปะ” ที่ไม่มีใครเหมือน พวกเขาเปิดตัวมาด้วยการโห่ร้องกู่ก้องแบบไทยแท้ แสดงการมาถึงของแดนซ์กรุ๊ปกลุ่มใหม่ที่ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน นับจากการแห่ขบวนขันหมากมาในวันนั้น ประเทศไทยก็จดจำพวกเขาไปตลอดกาลในฐานะศิลปินกลุ่มแดนซ์อันดับหนึ่งที่ใช้วงว่า
ปุ๊กกี้ – สาวน้อยปริศนา SHA-LA-LA-LA-LA
สาวน้อยลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลียน่ารักหน้าใสคนนี้ ใช้ชีวิตที่เกาะซิดนีย์มาเป็นเวลา 15 ปี ก่อนจะส่งเสียงของเธอลอยข้ามทะเลมาที่บริษัทอาร์เอสฯ ณ ประเทศไทย จนในที่สุดก็ทำให้สาวน้อยคนเก่งวัย 16 ได้มาเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนที่ 3 ของค่าย และปั่นยอดขายไปได้ล้านตลับถึง 2 ชุด
ถ้าจะพูดถึงนักร้องวัยรุ่นหญิงยุค 90 ที่ดังให้แซดไปทั้งประเทศ หนึ่งในนั้นคงต้องเป็นเธอคนนี้…
ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง
ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง – เทพเจ้าเท้าไฟ
ย้อนกลับไปในยุคก่อน rs star club จะถือกำเนิด บริษัทอาร์เอส (ซึ่งตอนนั้นยังเป็นไม่ได้ใช่ชื่อ อาร์.เอส. โปรโมชั่น 1992) ได้ประสบความสำเร็จกับศิลปินใน 2 ยุคแรกมาก่อนแล้ว นั่นก็คือ ยุควงสตริงคอมโบ (อินทนิล ครีบูน ฟรุ้ตตี้ ฯลฯ) และยุคร็อค+ป๊อปเมนสตรีม (หิน เหล็ก ไฟ อริสมันต์ อิทธิ ไฮร็อค ฯลฯ) พอเข้าต้นยุค 90 ช่วงรอยต่อก่อนหันมาบุกตลาดวัยุร่นอย่างเต็มตัว ก็ได้มีศิลปินชายหน้าใหม่ถือกำเนิดขึ้นอีกหนึ่งคน
ศิลปินคนนี้ไม่ได้มี���าพลักษณ์เป็นหินเหล็กไฟหรืออริสมันต์แต่อย่างใด แต่จับเอาสไตล์ป๊อปร็อคมาออกอัลบั้มแรกจนเป็นที่รู้จักในฐานะมือที่สาม แต่นั่นก็เทียบไม่ได้เลยกับความมหัศจรรย์ที่เขาสร้างไว้หลังจากนี้…หลังจากที่มีสายฟ้าฟาดลงมาพร้อมรองเท้าคู่ใจ ที่จุดไฟให้เพลงป๊อปแดนซ์ปนทำนองแร็พเข้ามาอยู่ในใจวัยรุ่นยุคนั้นต่อมา และจดจำชื่อของเขาว่า
ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง
อนัน อันวา – เด็กน้อยมหัศจรรย์ พันธุ์ตะลึง
ในวงการเพลงไทยยุค 90 ค่ายอาร์เอสเป็นเบอร์ต้นๆที่ริเริ่มเอาเด็กวัยก่อนทำบัตรประชาชนมาปั้นเป็นศิลปินจนโดดเด่นโด่งดัง จนหลายๆคนแดกดันว่าเด็กพวกนี้มันเวิร์กในธุรกิจเพลงจริงหรืออย่างไร แต่ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ยังไง พวกเขาเหล่านี้ก็โด่งดังไปซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดูโอเด็กอย่างแร็พเตอร์ หรือทรีโอแก๊งอย่าง ไจแอนด์ ดูโอเด็กคนผู้ใหญ่คนก็ไม่น้อยหน้า น้องเจอาร์ก็ดังเป็นพลุแตกไม่แพ้กัน
ในขณะที่ผู้ใหญ่หลายคนพากันเขียนเครื่องหมาย question mark กับความสามารถของศิลปินเด็กตัวกระเปี๊ยกอย่างต่อเนื่อง ในปี 2542 ก็ได้บังเกิดศิลปินเด็กอีกคนหนึ่งที่ทำให้ทั้งวงการพากันตกตะลึงตึงตึง ศิลปินเด็กคนนี้ออกอัลบั้มเดี่ยว มาคนเดียวแบบเน้นๆ พกพาพรสวรรค์และความสามารถทั้งการร้อง การเต้นมาโชว์ลีลาจนเป็นที่ยอมรับกันถ้วนหน้า เอาเป็นว่าลุงๆป้าๆน้าอาหน้าไหน ก็รู้จักเพลงของเขา และท่าเต้นสุดฮิต เด็กคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นน้องชายแท้ๆของหนึ่งในสมาชิกดูโอระดับตำนาน
ถ้าคุณเกิดทันยุค 90 เป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะไม่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ… อนัน อันวา
เจอาร์-วอย – ดูโอต่างวัย หัวใจซิกกาซ่า
Duo เป็นคำนาม แปลว่า สองคน สองสิ่ง ถ้าใช้กับศิลปินนักร้อง ก็คือศิลปินคู่ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินคู่ชาย แบบ ฝันดี-ฝันเด่น ศิลปินคู่หญิง แบบ เดอะฮอตเปปเปอร์ซิงเกอร์ส ศิลปินคู่ชายหญิง แบบ สุเทพ-สวลี ศิลปินจับกีตาร์ แบบ เบิร์ดกะฮาร์ด ศิลปินนักแต่งเพลง แบบ อัสนี-วสันต์ หรือศิลปินคู่เด็ก แบบ แร็พเตอร์ ในวงการเพลงไทยก่อนยุคลูกกวาด มีคู่ดูโอที่โด่งดังมาแล้วหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่มีกฎกติกามารยาทไหนอธิบายเอาไว้ว่า…ศิลปินดูโอ จะต้องอายุไล่เลี่ยกัน
ว่าแล้วความแปลกใหม่ก็บังเกิดขึ้นในวงการเพลงบ้านเราในยุค 90 เมื่อจู่ๆ ค่ายอาร์เอสก็เกิดนึกครึ้มอยากปั้นศิลปินวัยรุ่นดูโออีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับแร็พเตอร์ และลิฟท์กับออย แต่มาคราวนี้ จับเอาเด็กหนุ่มวัย 18 มาคู่กับเด็กน้อยวัย 11 ซะเลย ไม่เคยมีใครทำก็ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้นี่เนอะ เรื่องราวจึงลงเอยด้วยการโคจรมาพบกันของไวรัสสองสายพันธุ์ที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า เจอาร์ – วอย
เต๋า สมชาย – หัวโจกจรดปลายเท้า
ในสมัยแรกเริ่มตลาดเพลงวัยรุ่น ศิลปินมากหน้าหลายคาแร็คเตอร์ถือกำเนิดขึ้น มองวงการเผินๆอาจจะดูว่าวัยรุ่นชายชอบศิลปินร็อคที่ดูหนักแน่นรุนแรง วัยรุ่นสาวๆชอบกรี๊ดศิลปินป๊อปหน้าใส….ผิดแล้วครับ
การมาของเพ่คนหนึ่งคนนี้นี่แหล่ะ เป็นตัวบ่งบอกว่า วัยรุ่นผู้ชายก็ชอบศิลปินป๊อปหน้าใส แต่มาดเท่ห์โ_ตรๆได้เหมือนกัน เขาผู้นี้พกพาผ้าโพกหัว กับท่าเต้นมาฮิตกันทั้งบ้านทั้งเมือง วัยรุ่นหน้าไหนก็ต้องไปหามาโพกมาใส่ ตัดผมทรงเดียวกับเขาเข้าพวก เขาผู้นี้เป็นหัวโจกอย่างแท้จริง เพราะเขาเป็นแกนนำ หรือเป็นศิลปินเบอร์แรกๆที่พาพรรคพวกรุ่นน้องมาตีต่อยตลาดเพลงวัยรุ่นจนคู่แข่งแตกกระเจิง เข้าผู้นี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก…
สมชาย เข็มกลัด
นุ๊ก – สาวขาโจ๋…ดอกไม้ในหมู่โจรหน้าใส
สาวน้อยน่ารัก ตาโตกลมแป๋วแหวว ผมสั้น ร่างเล็ก คนนี้เป็นดอกไม้หนึ่งเดียวในแก๊งศิลปินวัยรุ่นหน้าใสยุคบุกเบิกของอาร์เอส แต่ถึงจะเป็นหญิงหนึ่งเดียว คุณเธอก็เฮ เฮ้ว ตามผองเพื่อนผู้ชายไปได้ทุกงาน
และยังมีผลงาน���าพยนตร์ ละครดังระเบิดระเบ้อเป็นตำนานอีกต่างหาก เธอผู้นี้สร้างวีรกรรมไว้มากมายที่ติดอกติดใจแฟนเพลงทั้งหญิงชายทั่วประเทศ แต่ถึงจะเป็นขาโจ๋ยังไง เธอก็มีโปรไฟล์ครอบครัวที่อบรมสั่งสอนมาอย่างดี ไปที่ไหนๆก็ถอนสายบัวให้ใครๆเสมอ ด้วยบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้ใครๆก็หลงรัก นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา
โดม ปกรณ์ ลัม – หนุ่มหล่ออันตราย
สมมติว่าคุณเป็นแมวมอง สมมติว่าคุณกำลังมองหาเด็กหนุ่มหน้าใสซักคนมาปั้นเป็นศิลปินคนใหม่ของวงการ สมมติว่าคุณเจอเด็กหนุ่มวัยเพิ่งทำบัตรประชาชนได้ไม่นาน สมมติว่าเขาหน้าตาดีมากๆ สมมติว่าเขาเป็นลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์-เยอรมัน สมมติว่าเขารักดนตรีมาก โดยเฉพาะแนวเทคโน แล้วสมมติว่าเขาเคยผ่านการทำงานในวงการตั้งแต่เด็กๆไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายแบบหรือโฆษณา คุณจะปล่อยให้เขาหลุดมือไปงั้นหรือ?
โน เป็นไปไม่ได้เลย เพราะงั้นเด็กหนุ่มคนที่ว่าจึงได้มาเฉิดฉายหน้าใสใสอยู่ในวงการบันเทิง จนกระทั่งวันเวลาผ่านมาเกือบ 20 ปี เขาก็กลายเป็นเทพบุตรหน้าหล่อ เจ้าพ่อเทคโน มือโปรอุดมการณ์ ที่มีนามว่า โดม ปกรณ์ ลัม ไปโดยปริยาย
ศรราม เทพพิทักษ์ – พระเอกตลอดกาล ที่ลูกไม้ เหลือร้ายไม่ใช่เล่น
เด็กหนุ่มหน้ามน ทายาทคนบันเทิงคนนี้คลุกคลีอยู่กับวงการมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จากสายตาเด็กชาย ศรราม เทพพิทักษ์ เขาไม่ชอบสังคมนี้ เพราะมันชิงดีชิงเด่นกัน และมีคนไม่จริงใจเยอะ แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มหน้าใส ที่มีเสน่ห์ซะเหลือเกิน ก็ไม่พ้นเหล่านักปั้น ที่หยิบยื่นโอกาสในวงการให้ แล้ววันหนึ่งเมื่อหนุ่มน้อยคนนี้ จบ ม.6 เกิดอยากทำงานหาเงินให้คุณแม่ เขาจึงหนีบุพการีไปถ่ายแบบโฆษณา
“ผมมองว่ามันคืองาน เป็นอะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เราตั้งใจทำงานหาเงินให้แม่ไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะมาดังสูงเสียดฟ้า”
(จากหนังสือ ไม่เคยรักกันเลย…ใช่ไหม)
เราตั้งใจทำงานหาเงินให้แม่ไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะมาดังสูงเสียดฟ้า”
(จากหนังสือ ไม่เคยรักกันเลย…ใช่ไหม)
แต่นั่นก็คงเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลให้เวลาต่อมา ในรายชื่อพระเอกเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิงไทย มีชื่อของ
ศรราม เทพพิทักษ์
ศรราม เทพพิทักษ์
ลิฟท์กับออย คู่หูเอวลอย ออยกับลิฟท์
คนหนึ่งหน้าหล่อมาดขรึม แต่แอบขี้เล่น อีกคนหน้าตี๋มาดทะเล้น แต่ยิ้มหวานที่สุดในโลก อยู่ดีดีโชคชะตาก็พาให้คนสองคนจากคนละจังหวัดและนิสัยต่างกันสุดขั้วมาเจอกัน และบัญญัติให้คำสองคำมาอยู่คู่กันตลอดไปในมโน���าพของผู้คนในยุค 90
รองเท้าต้องมีซ้ายขวาคู่กันฉันใด ลิฟท์กับออยก็ต้องคู่กันฉันนั้น ลองจินตนาการว่าถ้าขาดคนใดคนหนึ่งไปจะเป็นอย่างไร ออยเคยพูดไว้อย่างชัดเจนว่า
“เหมือนใส่รองเท้าอยู่ข้างเดียว”
.
.
“เดินได้…แต่ไม่ถนัด”
.
.
“เดินได้…แต่ไม่ถนัด”
เจมส์ – นักร้องกระดูกเหล็กในตำนาน
กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มหน้าญี่ปุ่นคิ้วเข้ม แต่เป็นคนใต้ เดินทางมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ณ วันนั้น ใครเดินผ่านเด็กหนุ่มคนนี้ คงไม่ได้คิดว่า ในทศวรรษนั้น เขาจะเป็นนักร้องอันดับหนึ่งของค่ายดังในประเทศไทย เป็นเจ้าของค่ายเพลงไอดี เร็คคอร์ด เป็นเถ้าแก่แฟรนไชส์ข้าวมันไก่ เป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรง และเป็นนักแสดงมืออาชีพ
ณ วันนี้ ถ้าถามว่า อยากให้คนจดจำ���าพของผู้ชายที่ชื่อเจมส์ เรืองศักดิ์ เป็นอะไร จำว่าเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ จำว่าเป็นผู้บริหารที่มีผลงาน หรือจำว่าเป็นนักแสดงคนเก่ง พี่เจมส์ตอบว่า
“จำผมว่าเป็นกำลังใจ เมื่อเวลาที่คุณคิดว่าไม่มั่นใจ ทำอะไรไม่ได้ ให้จำผมว่า เฮ้ย มีคนเคยทำได้เว้ย เจมส์ เรืองศักดิ์ไง ”
บอยสเก๊าท์ – แก๊งลูกเสือใจง่าย
เมื่อยุคศิลปินวัยรุ่นหน้าใสเริ่มต้นกันได้ไม่นาน เวลานั้นคนไทยยังฉงนกับคำว่า Boy Band อยู่ไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่จะชินกับคำว่า วงดนตรี หรือ Music band มากกว่า แต่ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น โปรเจ็ควงบอย แบนด์รุ่นใหม่จึงบังเกิดขึ้น ณ บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น 1992
ในขณะเดียวกัน ���าพยนตร์เรื่อง “อนึ่งคิดถึงพอสังเขป” ปักหลักถ่ายทำกันอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เด็กหนุ่มสามคน โจ ต๊ะ ดิ๊บ จากบ้านมานมนานเหมือนมาเข้าค่ายต่างจังหวัดก็ไม่ปาน ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานของกอง���าพยนตร์ เด็กหนุ่มทั้งสามคนมักจะนั่งรวมกลุ่มเล่นกีตาร์ ทำกิจกรรมนันทนาการอย่างเพลิดเพลินในยามว่าง วันเวลาผ่านไป มิตร���าพของทั้งสามก่อตัวขึ้นเป็นลำดับ และในวันหนึ่ง ขณะที่ร่วมวงกอดคอร้องเพลงกันอยู่นั้น ทั้งสามคนก็ชูสามนิ้วให้คำปฏิญาณว่า ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า…
“ถ้ามีโอกาสได้ทำงานเพลง เราทั้งสาม จะขอทำเพลงร่วมกัน”
แร็พเตอร์ – ว้าบบอยส์ข้ามทศวรรษ
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อสมัยประเทศไทยยังไร้ซึ่งอินเตอร์เน็ตและรถไฟฟ้า แต่มีโรง���าพยนตร์ให้เราเสพหนังต่างประเทศกันเป็นว่าเล่นแล้ว หนังเรื่องแรกที่เด็กอายุ 6 ขวบอย่างข้าพเจ้าได้เข้าไปดูในโรง���าพยนตร์ก็คือ Jurassic Park ใครไม่รู้จักคงเชยแย่ ความยาวนานของหนัง ทำให้เด็กสมาธิสั้นอย่างเราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ���าพของไดโนเสาร์ตัวแสบ 2 ตัว ที่ล่าเด็กๆอยู่ในครัวเลือนรางอยู่ในห้วงความฝัน แต่สำหรับโปรดิวเซอร์-นักแต่งเพลงมือทองท่านหนึ่ง ���าพนั้นกระตุ้นต่อมครีเอทีพให้ทำงานในทันที แล้วเขาก็สรรสร้างเด็กสองคนที่มีลักษณะซุกซน อยู่ไม่สุข และแสบนรก แต่ก็น่าเอ็นดู เหมือนเจ้าไดโนเสาร์ตัวเอกในเรื่อง ที่มีนามว่า แร็พเตอร์ ขึ้นมา
