เที่ยวทะเลตราด เที่ยวเกาะหมาก

ตื่นอีกทีถึงแล้วครับ ท่าเรือกรมหลวงฯ (แหลมงอบ)
            

เรือเร็วปาหนัน คือเรือที่จะไปส่งเรา โดยได้ทำการจองไว้เรียบร้อยแล้ว (ค่าเรือ 450 บาท)
             

45 นาทีครับ กับการนั่งเรือ speed boat ถือว่าไม่ใกล้นะครับ แต่ก็เพลินดี (หลับ)
..ถึงแล้วครับ ท่าเรือ เกาะหมากรีสอร์ท
             

เห็นทะเล+ท้องฟ้า+อากาศ แล้วหายเหนื่อยกับการเดินทางกันเลยทีเดียวล่ะ อยากจะกระโดดต๊ะเล
ซะตอนนี้เลยจริงๆ
             

บริเวณนี้คืออ่าวแหลมสวนใหญ่ (อ่าวเกาะหมากรีสอร์ท) หากหันหน้าไปท่าเรือ ขวามือคือ
เกาะหมากรีสอร์ท , สุชานารี รีสอร์ท
             

สวนถ้ามองไปทางซ้าย ก็จะเป็นพื้นที่ของเกาะหมากรีสอร์ท ถัดไปก็จะเป็น Fantasia และที่เห็นลิบๆ นั่นคือ เกาะหมากโคโคเคป
             

ในขณะที่รอรถรีสอร์ทมารับ ผมก็เดินกินลมชมทะเลเกาะหมากซะหน่อย แหม..ก็มาซะไกล
ซึมซับบรรยากาศให้คุ้มหน่อย
             

ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เที่ยงเต็มที แดดวันนี้ไม่ร้อนมากนะครับ ฟ้าลักกะปิดมั่งลักกะเปิดมั่ง
             

น้ำทะเลที่เกาะหมากขึ้นตอนเที่ยง ต่างกับทางปักษ์ใต้ที่น้ำจะลดตอนเที่ยง
(อันที่จริงเกี่ยวกับข้างขึ้นข้างแรม เนาะ)
             

ท่าเรือเกาะหมากนี้เวลาคนเยอะก็วุ่นวายพอควร แต่พอไม่มีคน มันน่านั่งรับลมมากมายเลยทีเดียว
แต่ตอนนี้เที่ยงตรงผมเลยนั่งรับแดดไปเต็มๆ
             

เอาล่ะ ผมได้ยินเสียงเรียกว่านายหัวววววว อ๋อออ รถรีสอร์ทมารับแล้วล่ะครับ
             

ถึงแล้วครับ “บ้านเกาะหมาก” คือที่พักของเรา
             

เช็คอินท์ กันเลยล่ะครับ สีของบ้านเกาะหมากถือว่าเข้าตากันเลยทีเดียว สดใส สบายๆ ครับ
             

หลังนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นที่พัก หรือเปล่าอยู่หลังล๊อบบี้นั่นแหละครับ เห็นสวยดีเลยเก็บภาพมาฝากกัน
             

มุมจากชายหาดมายังล๊อบบี้ ติดชายหาดกันเลยทีเดียวล่ะ โล่ง โปร่ง สบายๆ
             

เปลนี้ใครมาก็ต้องนอนสิน่า ผมเองก็เช่นกัน แต่ไม่ทันเค้าซะแระ….
             

นี่เป็นบริเวณห้องพักของรีอสร์ท บ้านเกาะหมากครับ ลักษณะเป็นตัว U หันหน้าเข้าหาชายหาด
             

ผมพักห้องหมายเลยสอง ติดกับหาด ทริปนี้เรามากันสามคน และแน่นอนเตียงเสริมนั่น คือ เตียงของผม
             

ห้องพักบ้านเกาะหมากเล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับพักสองคน ผ้าม่านบางหวิว
มองออกไปแล้วเห็นเงาห้องข้างๆ กันเลยทีเดียว
             

หิวแล้ววววววววว จัดมาเลยล่ะกัน ผัดเผ็ดทะเล ..
ผมเองกินอาหารทะเลมาจนชิน ไม่บ่อยนักที่เอ่ยปากชมรสชาดอาหารทะเลตามร้านต่างๆ
             

แต่ “ผัดเผ็ดทะเล” บ้านเกาะหมาก เผ็ดกะลังดี แต่ร้อนด้วยพริกไทย วัตถุดิบสดมาก
สรุปเลยครับ อร่อยมากกกกกก

อ่ะ จัดมาอีกจาน “ลาบทะเล” หน้าตางั้นๆ ครับ แต่รสชาดแจ่มครับ
             

อื้ม อีกซักอย่างล่ะกัน “ต้มยำทะลน้ำข้น” ความอร่อยของอาหารที่นี่ เป็นเพราะความสดของวัตถุดิบครับ
ยกนิ้วให้เลยจริงๆ
             

เอ่อ เดินทางมาก็ไกลนะ ตื่นแต่เช้ามืดโน่นแน่ะ แถมตอนนี้ท้องตึงซะด้วย เป็นหวัดอีกตะหาก ..งั้นขอตัวไปนอนตอนบ่ายก่อนนะครับ Z Z Z Z
ทริปนี้ผมป่วยตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง เลยไม่กล้าสู้แดดเท่าไหร่นัก..ตื่นมาอีกทีพระอาทิตย์ก็จะตกซะแล้ว
             

ไม่ต้องไปไหนไกลครับ พระอาทิตย์ตกที่หน้าหาดของบ้านเกาะหมากรีอสอร์ทนี่แหละ ท่าเรือที่เห็นนั่นคือ ท่าเรือ มากะธานีรีสอร์ท อยู่ถัดไปจากบ้านเกาะหมาก
             

บรรยากาศโรแมนติคดีจังครับ เห็นคู่นี้เดินคลอเคลียกันแล้ว ทำเอาคนโสดอย่างผม เหงาไปเลยล่ะ เฮ้อออ
             

ผมพลาดอย่างแรงที่ไม่ได้ถ่ายภาพกลางคืนของรีสอร์ทนี้ พอดีแบตกล้องหมดน่ะครับ แต่บรรยกาศกลางคืนแจ่มมากครับ รับประกันได้

—————————————————————–

เช้าวันที่ 19 ก.พ. 2554 …

เมื่อคืนผมหลับเร็วเพราะฤทธิ์ยา เลยตื่นแต่เช้าตรู่ บึ่งมอไซค์เซอร์เวย์ก่อนเลยครับ อากาศบนเกาะหมากตอนเช้าสดชื่นมากครับ
เพราะที่นี่ปลูกยางกันเยอะ ทำให้ตอนเช้ารู้สึกเย็นๆ ชื้นๆ บรรยากาศเหมือนปักษ์ใต้บ้านผมเลยล่ะ
             

หลังจากเซอร์เวย์เสร็จผมกลับมานั่งทำมิวสิคน้ำมูกไหล (เป็นหวัด) บริเวณหาดของ เกาะหมากคอดเทจ
ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของ บ้านเกาะหมาก ที่ผมพัก
             

เพื่อนๆ ตื่นกันเแล้วล่ะครับ หาอาหารเช้ากินกันเลยดีกว่า (รู้สึกทริปนี้จะมีแต่กินกะนอนนะเนี่ยเรา)
ง่าย ๆ ล่ะกัน “ข้าวต้มทะเล” ..เอ่อ พี่ครับ ทำไมเยอะจังอ่ะ กินเกือบไม่หมดอ่ะ …อร่อยครับ ไม่มีกลิ่นคาวด้วย ..
             

เอาน่ะ ถึงหน้าตาจะบ้านนอก แต่ขอทานอะไรที่มัน ไอโซหน่อย …อ่ะ อาหารเช้า แบบอะเมริกัน
สั่งจานเดียวกินสามคน…
             

แหม๊ ๆ ๆ จะไม่แนะนำเจ้าถิ่นให้รู้จัก มันก็กระไรอยู่ ใครมาพักที่นี่แล้วไม่หลงรัก เจ้า ไดตี้ ก็ให้มันรู้ไป
เป็นพระเอกของบ้านเกาะหมากเลยล่ะ หน้าที่ของเค้าคือ ขุด คุ้ย เขี่ย และ….นอน !!!
             

อิ่มแล้วล่ะ ทีนี้ก็พร้อมสำหรับการท่องเที่ยวทั่วเกาะหมากแล้ววว ไปกันเลยครับ “อ่าวแหลมสน”
             

รีสอร์ทที่ผมแวะนี่ก็คือ “ชินนาม่อนอาร์ตรีสอร์ทแอนด์สปา” เงียบสงบมาก ๆ
             

บริเวณน้ำจะตื้น แต่ใสกิ๊กเลยล่ะครับ ผมไปแต่เช้า รู้สึกจะมีหมอกให้เห็นบางๆ ด้วยนะครับ
             

ย้อนกลับมาอ่าวขาว ที่นี่ครับ อ่าวขาวรีสอร์ท ที่นี่จองได้จองเลยครับ น้ำใสน่าเล่น แถมเงียบสงบ
และสวยมาก ๆครับ
             

ที่นี่ผมแวะมาเซอร์เวย์แต่เช้าแล้ว และคิดไว้ว่าตอนสายๆ คงจะสวยน่าดู และผมคาดการณ์ไม่ผิด…
             

มองผ่านทะเลสีใส เจอหาดทรายขาวเนียน สะท้อนแสงแดดอ่อนๆ ที่มาพร้อมกับลมพัดพริ้วๆ ถ้าที่นี่ไม่เหมาะกับการพักผ่อนก็ไม่รู้จะไปแห่งหนใดแล้วล่ะ
             

จากการสอบถาม ได้ความว่าอ่าวขาวรีสอร์ทค่อนข้างจะรับแต่แขกต่างประเทศ แต่ถ้าหน้า Low Season
ผมว่ายังไงก็มีโอกาสได้พักล่ะครับ
             

ผมใช้เวลาอยู่ที่อ่าวขาวนานพอควรครับ และตั้งใจไว้ว่าตอนเย็นจะมาเล่นน้ำที่นี่แหละ
             

บิดคันเร่งไปกันต่อ…เป็นที่ไหนไปไม่ได้ ใกล้ๆ ที่พักผมนี่เอง “เกาะหมากโคโคเคป รีสอร์ท”
             

ผมรู้แล้วครับ ทำม๊ายยทำไม ใครๆ ก็อยากพักที่นี่ น้ำมันใสซะเหลือเกิ๊นนน
นี่เป็นวิวที่มองจากบริเวณร้านอาหารของเกาะหมากโคโคเคป เอาเป็นบรรยกาศอย่างนี้
นั่งกันได้เป็นวันเลยอ่ะ
             

บ้านชมคลื่น ยื่นออกไปกลางทะเลใสๆ ..เสียดายจัง จองไม่ได้ไม่งั้น คงมีผมไปนอนทอดกายสบายอารมณ์อยู่ในเปลหน้าห้องพักนั่นแล้วล่ะ
             

นี่ก็เป็นอีกหลังที่หน้าพักมากครับ Twin Orchid ติดทะเลเหมือนกัน ร่มรื่นดี เรื่องวิวไม่ต้องพูดถึงครับ แจ่ม…
             

จองไว้ในใจก่อน เดี๋ยวหากมีคนรู้ใจต้องมาพักที่นี่ให้ได้ อิอิ
             

ส่วนนี่น่าจะเป็น Happy Boat ดูจากในอินเตอร์เน็ตบ้านเก่ามากครับ แต่ของจริง แจ่มเลยล่ะ
พักได้สี่คนเลยทีเดียว
             

เดินเลยมาหน่อย บริเวณนี้จะเป็นโขดหิน น้ำทะเลเย็นเจี๊ยบครับ แค่เอาเท้าลงไปแช่ก็สดชื่นแล้วล่ะ
             

แม้จะเป็นโขดหิน แต่ก็มีชายหาดสั้นๆ ให้เดินเล่นนะครับ
             

วันนี้ แดดกะลังดี แต่ฟ้าไม่ใสเคลียร์เท่าไหร่ ยังไงก็แล้วแต่ทะเลที่เกาะหมากก็สวยไม่น้อยไปกว่าที่อื่น
ที่ผมเคยไปเลย
             

เดินไปจนสุดแล้ว เดี๋ยวย้อนกลับไปที่สะพานหน่อยนะ
             

สะพานทอดยาวลงเป็นกลางทะเล มีใครบ้างที่มาจุดนี้แล้วจะไม่ถ่ายภาพกลับไป
             

ความสวยใส ของน้ำทะเลที่นี่ชวนให้จดจำจริงๆ ครับ น่าประทับใจมากๆ
             

ผมเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนถึงสุดทาง ลมทีนี่ไม่เหนียวตัวเลยครับ โชคดีที่วันนี้แดดไม่ร้อนมากด้วย
             

เฮ้ออ ขอนั่งพักอาบแดดหน่อยนะครับ (ยังดำไม่พออีกเหรอ) …น้ำทะเลสีครามมันเป็นจั๊งซี่นี่เอง
             

ไหนๆ ก็ไหน ๆ ขอลงน้ำหน่อยเถอะ มันอดใจไม่ไหวแล้วจริงๆ
             

ฝั่งซ้ายมือของสะพาน รู้สึกจะเป็นจุดสำหรับดำน้ำด้วยนะครับ มีอุปกรณ์ครบครันเลยทีเดียว
             

ป้ายบอกสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ทำได้น่ารักดีจังครับ
             

หนูน้อยหมวกส้ม กะลังอินน์กะน้ำทะเลสวยใส ของที่นี่
             

เที่ยงนี้คงจะไปกินที่ไหนไม่ได้แล้วล่ะ มาถึงนี่แล้วก็ลองชิมอาหารที่นี่เลยล่ะกัน
อืม เป็นอาหารจานเดียวก็ดีเนาะ ..พริกแกงทะเลราดข้าว
             

บ่ายกว่าแล้ว ขอกลับไปที่พักอาบน้ำอาบท่าหน่อยดีกว่า..นั่นไงเจอเจ้าไดตี้กะลังซนอยู่พอดีเลย
             

ตะวันเริ่มคล้อย แดดเริ่มอ่อน แต่ผมยังไม่อ่อนแรง ไปแหลมตุ๊กตากันดีกว่าครับ
ใกลหน่อย แต่ก็คุ้มที่ได้มา
             

แหลมตุ๊กตา ทรายค่อนข้างจะเป็นสีแดง แต่น้ำทะเลก็ใสเหมือนกับทุก ๆที่ เงียบมาก
เหมาะที่จะนอนพักผ่อนแบบเงียบๆ
รีสอร์ทที่แหลมนี้ก็มจะมี มารวยรีสอร์ท และ บ้านอิงเขาครับ
             

ย้อนกลับไปที่แหลมสนกันอีกที ” กรีนวิวรีสอร์ท” เป็นอีกที่ ที่เงียบสงบ อยู่ติดกับ ชินนิมอนรีสอร์ทนั่นเอง
             

น้ำทะเลบริเวณนี้จะใส และตื้นมาก สามารถเดินลงไปในทะเลได้ไกลมากเลยล่ะครับ
             

ยัง..ยังไม่เหนื่อย อ่าวไผ่ครับ คือที่หมายต่อไป และก็แวะ “ลิตเติ้ลมูนรีสอร์ท”
เจ้าของรีสอร์ทอัธยาศัยดีมากๆ ครับ เป็นอีกที่ที่เงียบสงบ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว
ร่มรื่น ที่พักและบริเวณที่พักดูสะอาดและเป็นระบียบ
             

ก่อนจะมาเกาะหมาก มีที่พักทีนึงที่ดูไว้คือ “บุรีฮัท รีสอร์ท” อยู่ทางฝั่งอ่าวนิด รีสอร์ทอยู่ริมเขาครับ
             

ขากลับแวะที่นีครับ ” Island Hut” อยู่ระหว่าง อ่าวขาวกับบ้านเกาะหมาก ที่นี่น้ำขุ่นกว่าที่อื่นนิดหน่อย แต่น้ำลึกน่าเล่นทีเดียว
             

ต้นมะพร้าวเอนไปในทะเลกับชิงช้าเนี่ย มันเข้ากันดีจริงๆ นะครับ เป็นภาพที่น่ามองจริงๆ
             

ตกเย็นแล้วล่ะ ยังไม่เหนื่อยเลยครับ แต่คิดว่าคงถึงเวลากลับแล้วล่ะ
คืนนี้เรานั่งทานอาหารกันที่รีสอร์ทที่พักเหมือนเดิม
คืนนี้ก็ไม่ได้ถ่ายภาพกลางคืนอีกแระ เฮ้อ พลาดได้ไงหนอเรา

——————————————————————————————–

20 ก.พ. 2554 ..

เพราะฤทธิ์ยาหวัด เลยทำให้เมื่อคืนผมหลับเร็วเช่นเคย ตื่นเช้ามาเจอเจ้าฟ้าใสยังนอนอยู่เลย
             

ส่วนเจ้าตัวนี้ เมื่อคืนคงดื่มหนัก เลยต้องถอนแต่เช้า อิอิ
             

แสงอาทิตย์ของเช้าวันนี้โผล่มาให้เห็นแล้วครับ บ้านเกาะหมาก สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น
และพระอาทิตย์ตกเลยนะเนี่ย
             

วันนี้มื้อเช้า ขอเป็นแบบอังกฤษล่ะกัน ส่วนเพื่อนๆ กินข้าวต้มหมู เอ๊ะ รู้สึกจะเอาเปรียบเพื่อนแฮะเรา แหะ ๆ
             

10.00น. เป็นเวลากลับของพวกเราล่ะ พอรถจอดปุ๊บ ก็มีคนกระโดดขึ้นรถตัดหน้าผมไปซะงั้น
ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าฟ้าใสนี่เอง น่ารักมากครับ สงสัยอยากไปส่งที่ท่าเรือละมั๊ง
แต่น่าสงสารเจ้าของรีสอร์ทเค้าไม่อนุญาตให้ไป
             

เราขึ้นเรือกลับที่ท่าเดิมเหมือนตอนที่มาถึงเกาะหมากครับ วันนี้คนทยอยกลับกันเยอะพอควร
             

ว๊าาา จะกลับกันแล้วเหรอ ว่าง ๆแล้วอย่าลืมมาเที่ยวเกาะหมากกันอีกนะครับ
             

การเดินไปยังเกาะหมากถือว่าสะดวกครับ มีรถตู้รับส่งถึงท่าเรือ แต่ค่าเดินทางคงจะสูงกว่าอีกหลายๆ ที่
แต่นั่นคงเป็นเพราะระยะทางน่ะครับ เฉพาะค่ารถตู้+ค่าเรือไปกลับ ก็ 1,500 แล้วล่ะครับ
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่าง จากเกาะอื่น ๆ มากนัก

สรุปแล้วเกาะหมากผมรับประกันได้ครับ ว่าน้ำใสทั่วเกาะจริงๆ ส่วนที่พักมีให้เลือกหลากหลาย
แล้วแต่ไสตล์ของแต่ละคน

มีโอกาสไปเที่ยวในวันหยุด ไปเที่ยวตราด ก็อย่าลืมเกาะหมากเสียล่ะครับ

ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง..

นายหัว

อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus E3
เลนส์ : Zuiko 11-22 f/2.8-3.5